เผยแพร่ครั้งแรก 7 เมษายน 2021
แก้ไขล่าสุด 16/05/2024
ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการอุดฟัน แก้ฟันผุ-ฟันหักให้สวยดังเดิม
การสูญเสียฟันบางส่วนจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ฟันผุ หรือฟันแตกหัก ซึ่งทำให้เนื้อฟันตามธรรมชาติต้องถูกทำลายไป อาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด และไม่สวยงาม รวมถึงทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีทางทันตกรรมได้มีการพัฒนาจนมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก จึงสามารถทำให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติ และมีความสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ หรือในบางกรณีอาจสวยกว่าฟันธรรมชาติเดิม ด้วยการ “อุดฟัน” นั่นเอง
![ทันตแพทย์ทำการอุดฟันให้คนไข้](https://smiledc-th.com/wp-content/uploads/2021/04/dental-filling.jpg)
ทางคลินิกทันตกรรมสมายล์ มีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางอุดฟัน และทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆประจำที่คลินิก เพื่อให้การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ของทุกคน ทั้งในด้านของงานทันตกรรมป้องกัน การ อุดฟันหน้า เพื่อความสวยงาม การบูรณะฟันที่มีรอยผุ หรือแตกหักไป และการทำวีเนียร์ เพื่อสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจ และบุคลิกภาพที่ดีให้กับทุกท่านค่ะ
การอุดฟันคืออะไร ?
การอุดฟัน คือ การเสริมหรือเติมส่วนของเนื้อฟันที่สูญเสียไปจากฟันผุ ฟันแตก ฟันบิ่น หรือฟันกร่อน โดยวัตถุประสงค์หลักของการอุดฟัน คือการช่วยทำให้ฟันซี่นั้น ๆ กลับมามีลักษณะใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด ทั้งในแง่ของการใช้งาน และความสวยงาม ซึ่งจะมีการนำวัสดุสำหรับอุดฟันประเภทต่าง ๆ มาใช้เลียนแบบเนื้อฟันธรรมชาติ
การอุดฟันมีกี่แบบ ? วัสดุอุดฟันมีกี่ประเภท ?
โดยทั่วไป จะสามารถแบ่งประเภทของวัสดุอุดฟัน ออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
- วัสดุอุดฟันแบบโลหะ
- วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน
ซึ่งวัสดุอุดฟันทั้ง 2 ประเภทนี้ มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันดังนี้
วัสดุอุดฟันสีโลหะ
การอุดฟันด้วยโลหะ มีข้อดีในแง่ของความคงทนและยืนยาวของวัสดุ แต่สีของโลหะจะแตกต่างจากสีของเนื้อฟันธรรมชาติมาก ทำให้ไม่สวยงาม วัสดุอุดฟันแบบโลหะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามชนิดของโลหะ คือ
- วัสดุอมัลกัม (Amalgam)
วัสดุอมัลกัม หรือวัสดุอุดฟันแบบโลหะสีเงิน เป็นสารประกอบร่วมกันของ เงิน ตะกั่ว ดีบุก ทองแดง และอาจมีส่วนประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วยอีกเล็กน้อย รวมตัวกันอยู่ในรูปของโลหะผสม หรืออัลลอย (Alloy) เวลาใช้งาน จะนำมาผสมกับปรอทบริสุทธิ์ 99.99% เมื่อผสมส่วนประกอบเข้าด้วยกันทั้งหมด จะมีลักษณะ นุ่ม กึ่งเหลว ซึ่งทันตแพทย์สามารถกดอัดเข้ากับโพรงฟัน และตกแต่งให้มีรูปร่างคล้ายกับฟันธรรมชาติได้ - การอุดฟันด้วยทอง
“ทอง” เป็นโลหะที่เข้ากันกับร่างกายมนุษย์ได้ดีมาก จึงมีปฏิกิริยาระคายเคืองเหงือกน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับโลหะชนิดอื่น ๆ จึงมีบางกรณีที่เลือกใช้ทองเป็นวัสดุอุดฟัน ซึ่งการใช้ทองอุดฟันนั้นจะต้องมีการขึ้นรูปของทองในห้องปฏิบัติการ แล้วจึงนำมายึดติดกับตัวฟันที่มีการกรอเตรียมเอาไว้ โดยทองคำมีความแข็งแรง รับแรงบดเคี้ยวที่ใกล้เคียงกับฟัน ดังนั้นเวลาฟันซี่ตรงข้ามกัดโดนถูกทอง จะไม่ทำให้ฟันคู่สบสึก หรือกร่อนไป อย่างไรก็ตามการใช้ทองอุดฟันนั้นมีราคาแพงที่สุด และอาจต้องใช้เวลาในการมาพบทันตแพทย์หลายครั้ง รวมถึงยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความสวยงามและใกล้เคียงสีฟันธรรมชาติด้วย
วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน
การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะมีข้อดีด้านความสวยงาม มีสีใกล้เคียงกับฟันจริงมาก และยังลดความตื่นกลัวพิษของปรอท ที่อาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงประเทศในยุโรปบางประเทศ ที่ไม่อนุญาตให้มีการอุดฟันด้วยโลหะอมัลกัมเด็ดขาดด้วย โดยวัสดุอุดฟันสีเหมือนฟันสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
- วัสดุคอมโพสิต เรซิน (Composite Resin)
วัสดุคอมโพสิต เรซิน นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นวัสดุที่ดูสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ มีความแข็งแรงพอประมาณ สามารถใช้ได้ทั้งการอุดฟันหน้าและอุดฟันหลัง วัสดุคอมโพสิต เรซินนี้จะมีลักษณะอ่อนนุ่ม คล้ายแป้งโดว์ เมื่อถึงเวลาใช้งานทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือที่ไม่ทำให้วัสดุติดสี ตักวัสดุใส่ในโพรงฟันที่ได้รับการกรอแต่งเอาไว้แล้ว จากนั้นจะฉายแสงสีฟ้า เพื่อให้วัสดุแข็งตัว หลังจากนั้นจะทำการขัดแต่งให้ได้รูปทรงตามต้องการ ซึ่งวัสดุชนิดนี้จะแข็งตัวเต็มที่ทันทีภายหลังการฉายแสง คุณจึงสามารถเคี้ยวอาหารและใช้งานได้ทันทีภายหลังการอุดฟัน อย่างไรก็ตามวัสดุนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง คือความแข็งแรงที่ไม่เท่ากับการอุดฟันด้วยโลหะ และหากใช้อุดฟันหน้า ต้องระวังอย่าไปกัดหรือเคี้ยวของแข็ง เพราะจะทำให้วัสดุแตกหักได้ หรืออาจมีการติดสีจากชาหรือกาแฟที่ตัววัสดุได้ - การอุดฟันด้วยพอร์ซเลน (Porcelain)
พอร์ซเลน (Porcelain) ซึ่งเป็นวัสดุเซรามิก มีความแข็งแต่เปราะ ซึ่งจะต้องมีการขึ้นรูปในห้องปฏิบัติการ และนำชิ้นงานมายึดติดกับฟันที่ได้รับการกรอแต่งเอาไว้แล้ว ข้อดีหลัก ๆของการบูรณะฟันด้วยพอร์ซเลนคือเรื่องของความสวยงาม เนื่องจากจะมีสีที่เหมือนกับเนื้อฟันธรรมชาติมาก รวมถึงสามารถใช้ในกรณีของการอุดฟันที่ใหญ่ หรือกว้างมาก ๆ ซึ่งไม่สามารถอุดด้วยวัสดุชนิดอื่นได้ แต่ข้อจำกัดของการบูรณะฟันด้วยพอร์ซเลนก็คือ ราคาจะสูงใกล้เคียงกับการบูรณะฟันด้วยทอง และมีขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก ต้องทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการบูรณะฟันที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี รวมถึงคนไข้ต้องมาพบทันตแพทย์หลายครั้ง - วัสดุอุดฟันสีขาว ชนิดกลาส ไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer)
วัสดุอุดฟันแบบกลาส ไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer) เป็นวัสดุอุดฟันสีขาว ที่มีข้อดีหลัก ๆ คือ สามารถปลดปล่อยฟลูออไรด์ออกมาจากตัววัสดุอุดได้ และสามารถยึดติดกับเนื้อฟันได้ด้วยพันธะทางเคมี รวมถึงไม่ค่อยอ่อนไหวต่อความชื้นมากนัก จึงเหมาะมากในการบูรณะฟันที่มีอาการเสียวฟันมาก ๆ หรือการอุดฟันในกรณีที่อาจควบคุมความชื้นได้ไม่ดีนัก เช่น การผุบริเวณคอฟัน หรือจุดที่ใกล้กับขอบเหงือกมาก ซึ่งจะมีของเหลวจากเหงือกซึมมาบริเวณโพรงฟันที่ได้รับการกรอแต่งไว้อยู่ตลอดเวลา แต่ข้อจำกัดหลัก ๆ ของวัสดุชนิดนี้คือ อาจไม่สวยงามเท่ากับวัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน 2 ประเภทแรก และวัสดุกลาส ไอโอโนเมอร์ จะมีความแข็งแรงน้อยกว่าวัสดุอื่นค่อนข้างมาก จึงเหมาะในการอุดฟันน้ำนม หรือฟันแท้จุดที่ไม่ได้รับแรงบดเคี้ยวโดยตรง
ขั้นตอนการ อุดฟัน
ในกรณีที่สมควรได้รับการอุดฟัน ขั้นตอนในการรักษาจะเป็นดังนี้
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจในช่องปาก เพื่อดูขอบเขตของรอยผุ หรือรอยแตก เพื่อพิจารณาหาชนิดของวัสดุอุดฟันที่เหมาะสมในการบูรณะฟันของคุณ
- ทำการถ่ายภาพรังสี เพื่อประกอบการวินิจฉัย หากพบว่ารอยผุได้ลุกลามไปจนถึงโพรงประสาทฟันแล้ว ฟันซี่ดังกล่าวจะไม่สามารถรักษาได้ด้วยการอุดฟัน แต่อาจจะต้องรักษารากฟัน หรือถอนฟันแทน
- อาจต้องมีการใส่ยาชาในบางกรณีที่รอยผุลุกลามเข้าไปลึก หรือในกรณีที่อาจมีอาการเสียวฟันขณะกรอกำจัดรอยผุออก เนื่องจากยาชาจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้น
- กรณีที่อุดฟันด้วยวัสดุอุดสีขาว ชนิดคอมโพสิต เรซิน อาจต้องพิจารณาใส่แผ่นยางกั้นน้ำลายเพื่อช่วยในการควบคุมความชื้น เพราะความชี้นส่วนเกินจากน้ำลาย หรือของเหลวอื่น ๆ จะส่งผลต่อการยึดติดของวัสดุกับเนื้อฟัน ทำให้วัสดุยึดกับฟันได้ไม่แน่น และอีกข้อดีของการใส่แผ่นยางกั้นน้ำลายคือ จะลดปริมาณน้ำที่เกิดจากการกรอฟัน ไม่ให้ไหลลงไปในคอของคนไข้ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสสำลักน้ำระหว่างทำฟันได้
- ทันตแพทย์จะกรอฟันเพื่อกำจัดรอยผุออกทั้งหมด ในกรณีของฟันแตก ทันตแพทย์อาจต้องมีการกรอฟันเพื่อปรับโพรงฟันให้มีลักษณะเหมาะสมกับการยึดติดของวัสดุอุดฟันแต่ละประเภท
- เมื่อทันตแพทย์กำจัดรอยผุออก และเตรียมโพรงฟันเรียบร้อยแล้ว หากพบว่าอยู่ใกล้กับโพรงประสาทฟัน หรือมีโอกาสที่จะเกิดอาการเสียวฟันภายหลังการอุด ทันตแพทย์อาจพิจารณาใส่วัสดุรองพื้นลงไปในโพรงฟันก่อน ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการปลดปล่อยฟลูออไรด์ เพื่อช่วยลดอาการเสียวฟันและปกป้องโพรงฟันไม่ให้เกิดการอักเสบในอนาคต
- จากนั้นจะทำการอุดฟัน โดยขั้นตอนของวัสดุแต่ละประเภทจะแตกต่างกันเล็กน้อย
- ทันตแพทย์จะตรวจเช็กการสบของฟัน โดยวัสดุอุดที่ดีจะต้องกัดพอดีกับฟันเดิมในช่องปาก ไม่สูงจนอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน หรือปวดฟันหลังอุด
- อาจมีการนัดหมายเพื่อตรวจเช็กภายหลังอุดฟัน 1-2 สัปดาห์ เพื่อแก้ไขจุดสบที่สูงเล็ก ๆน้อย ๆ ที่อาจหาไม่พบตอนอุดฟันเสร็จใหม่ ๆ
ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการอุดฟันของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าฟันซี่นั้น ๆ ต้องอุดใหญ่ หรือเล็ก ซึ่งคุณสามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ เพื่อประเมินเวลาและค่าใช้จ่ายในการอุดฟันได้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการอุดฟัน
เพื่อให้การอุดฟันประสบผลสำเร็จอย่างดีที่สุด คุณควรมีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการอุดฟัน ดังนี้
- นัดหมายเวลาเพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ และตรวจสุขภาพเหงือกและฟันโดยรวมก่อน เพื่อประเมินว่า ต้องรักษาโรคเหงือกหรือขูดหินปูนก่อนหรือไม่ หากคุณมีโรคประจำตัวอะไร แพ้ยาชนิดใด หรือทานยาอะไรอยู่ ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบด้วย
- ทำความสะอาดช่องปาก ด้วยการแปรงฟันมาให้เรียบร้อย
- หากคุณมีฟันปลอมชนิดถอดได้ หรือมีรีเทนเนอร์ ควรนำมาด้วย เพื่อให้ฟันที่อุด ใส่ได้พอดีกับเครื่องมือเดิมของคุณ
หากคุณเตรียมตัวมาได้ครบถ้วนดังนี้ การอุดฟันของคุณ ก็มักจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จในการอุดฟัน
คำแนะนำภายหลังการอุดฟัน
ภายหลังจากอุดฟันเรียบร้อยแล้ว หลาย ๆ คนคงจะมีข้อสงสัยว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้วัสดุอุดฟันคงอยู่ในช่องปากได้นานที่สุด ซึ่งเรารวบรวมมาให้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
- ภายหลังการอุดฟัน อาจจะมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้บ้าง หากอาการเสียวคงอยู่ไม่นาน คือไม่เกิน 24 ชั่วโมง และอาการค่อย ๆ หายไปเอง จะถือว่าเป็นปกติ แต่ถ้าหากอาการเสียวคงอยู่นานเกินกว่า 1 วัน โดยไม่มีทีท่าจะหายไป หรือเสียวฟันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มมีอาการปวด คุณควรจะรีบนัดหมายเพื่อกลับมาพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดี ซึ่งอาจแปลว่า รอยผุได้ทะลุไปถึงโพรงประสาทฟัน และอาจต้องเข้ารับการรักษารากฟัน
- ควรทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันตามปกติหลังอุดฟัน โดยเลือกใช้แปรงขนนุ่ม และยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบจุลินทรีย์สะสมซึ่งเป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ
- อาจใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือบ้วนน้ำเกลืออุ่น ๆ ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อช่วยกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ในช่องปาก และตามซอกฟันออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งมาก ๆ หรือกรุบกรอบมากในช่วงแรก เช่น น้ำแข็ง กระดูกอ่อน หรือเมล็ดถั่ว เนื่องจากอาจทำให้วัสดุบิ่นแตก หรือหลุดได้
- ในช่วง 1-2 วันแรก ที่อาจยังมีอาการเสียวฟัน คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่เย็นจัด-ร้อนจัด เพื่อสังเกตอาการตนเองภายหลังการอุดฟันก่อน
- กรณีที่อุดฟันด้วยวัสดุอมัลกัม ควรต้องรอประมาณ 24 ชั่วโมง จึงค่อยเคี้ยวอาหารด้วยฟันซี่ที่อุดไป เนื่องจากต้องรอให้วัสดุแข็งตัวเต็มที่ก่อน
- อย่าลืมไปพบทันตแพทย์ตามนัดหมายทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็กสุขภาพฟันเป็นประจำนะคะ
กรณีไหนบ้างที่จำเป็นต้องอุดฟัน
- ฟันผุฟันผุ
ไม่ว่าจะเป็นฟันผุรูเล็ก หรือรูใหญ่ ก็สมควรได้รับการรักษาโดยการอุดฟันทั้งสิ้น เนื่องจากหากปล่อยเอาไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ฟันผุอาจขยายขนาดกว้าง และลึกขึ้น จนเข้าไปถึงโพรงประสาทฟันได้ - ฟันแตกฟันแตก
กรณีที่ไปกัดหรือเคี้ยวโดนของแข็ง จนทำให้เนื้อฟันแตกหัก ควรจะได้รับการอุดฟัน เนื่องจาก หากปล่อยเอาไว้โดยไม่ทำการรักษา จุดที่เนื้อฟันแตกหักไปจะกลายเป็นที่สะสมของเศษอาหาร และทำความสะอาดได้ยาก อันจะส่งผลให้เกิดฟันผุในจุดที่ฟันแตกหักไป ซึ่งฟันผุในจุดที่ทำความสะอาดได้ยากเช่นนี้ จะมีโอกาสลุกลามไปจนถึงโพรงประสาทฟันได้ง่ายมาก - ฟันบิ่นไป เนื่องจากอุบัติเหตุฟันบิ่นไป เนื่องจากอุบัติเหตุ
กรณีประสบอุบัติเหตุ หรือมีการพลัดตกหกล้ม จนฟันมีการบิ่น หรือแตกหัก สมควรได้รับการอุดฟัน เพื่อเสริมให้เนื้อฟันกลับมาเต็มซี่เหมือนดังเดิม เพื่อความสวยงาม ป้องกันไม่ให้เกิดการเสียวฟัน รวมถึงป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียแทรกซึมจากเนื้อฟันที่แตก จนเข้าสู่โพรงประสาทฟัน ซึ่งอาจทำให้เกิดรากฟันอักเสบได้ในที่สุด - ช่องห่างระหว่างฟันหน้า
ในกรณีเป็นกังวลเรื่องความสวยงามที่เกิดจากช่องห่างระหว่างฟันหน้า ควรได้รับการอุดฟันหน้าเพื่อปิดช่องว่างที่ห่างนั้น ซึ่งภายหลังจากอุดปิดช่องว่างเรียบร้อยแล้ว คุณจะมีรอยยิ้มที่มั่นใจมากขึ้น - คอฟันสึกคอฟันสึก
คอฟันสึก อาจเกิดจากการแปรงฟันที่รุนแรง หรือไม่ถูกวิธี รวมถึงใช้ยาสีฟันที่มีผงขัดหยาบ ทำให้ผิวฟันบริเวณคอฟันเกิดสึกกร่อนไป กรณีเช่นนี้ ควรได้รับการอุดฟัน เนื่องจากหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และเนื้อฟันจะสึกมากขึ้นไปเรื่อย ๆ จนมีโอกาสทะลุโพรงประสาทฟันได้
การอุดฟันเจ็บไหม ?
อาจมีการเสียวฟันและปวดได้บ้าง หากว่าฟันซี่นั้น ๆ มีรอยผุที่ลึก ใหญ่ หรือใกล้กับโพรงประสาทฟัน แต่หากตรวจพบรอยผุตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น และรอยผุนั้นยังมีขนาดเล็ก ไม่ลึก ก็แทบจะไม่มีรู้สึกเจ็บ หรือปวดเลย
บริการอุดฟันราคาเท่าไหร่?
ค่าบริการอุดฟันจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้อุดฟัน ดังนี้
- วัสดุอมัลกัม
- วัสดุคอมโพสิตเรซิน (ฟันหน้า)
- วัสดุคอมโพสิตเรซิน (ฟันกราม)
ราคา 1,000-1,700 บาท / ซี่
- อุดฟันพร้อมเคลือบหลุมร่องฟัน
ราคา 1,300 บาท / ซี่
- อุดปิดช่องว่างระหว่างฟันหน้า
ราคา เริ่มต้น 3,000 บาท / ซี่
กรณีที่ลูกค้ามีสิทธิทำฟันประกันสังคมสามารถใช้สิทธิทำฟันได้ฟรี 900 บาทต่อปี สำหรับการขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และการผ่าฟันคุด โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแค่พกบัตรประชาชนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบสิทธิยืนยันการใช้สิทธิประกันสังคมทันตกรรมได้เลย
หากมีปัญหาฟันผุ ฟันแตก หัก บิ่น สามารถใช้บริการอุดฟันเพื่อคืนความสวยงามและประสิทธิภาพการใช้งานของฟันได้เลย และอย่าลืมเลือกคลินิกทันตกรรม SmileDC ที่ให้บริการทันตกรรมโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน การจัดฟัน การผ่าฟันคุด หรือแม้แต่การรักษาโรคเหงือก และบริการเกี่ยวกับทันตกรรมอื่น ๆ ก็พร้อมให้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ โทร. 096-942-0057
ข้อมูลอ้างอิง:
- When do you Need a Dental Filling?. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://newlookdentalcare.com/blog/when-do-you-need-a-dental-filling/