ทันตแพทย์รักษารากฟันแตกต่างจากทันตแพทย์ทั่วไป อย่างไร?!
หลายๆคนอาจจะกำลังสงสัยว่า ทันตแพทย์รักษารากฟันนั้นมีความแตกต่างจากทันตแพทย์ทั่วไปอย่างไร? มาเรียนรู้ถึง ความแตกต่างกันได้ในโพสต์นี้นะคะ
ทันตแพทย์ทั่วไปและทันตแพทย์รักษารากฟันจะมีบทบาทที่แตกต่างกันมาก ในการดูแลสุขภาพฟันของผู้ป่วย แม้ว่าทั้งสองสาขา จะให้บริการบางอย่างเหมือนกัน แต่ทันตแพทย์รักษารากฟัน จะมีหน้าที่รับผิดชอบที่เฉพาะเจาะจง ในการรักษารักษาฟัน หรือการรักษาคลองรากฟัน บทความนี้จะช่วยอธิบายถึงความแตกต่างเหล่านี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทันตแพทย์รักษารากฟันและทันตแพทย์ทั่วไป?
เราจะพูดถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทันตแพทย์รักษารากฟันและทันตแพทย์ทั่วไป มาดูไปพร้อมๆกันในสาระสำคัญของความแตกต่างเหล่านี้กันได้เลยค่ะ
ทันตแพทย์รักษาฟันกับทันตแพทย์ทั่วไป ต่างกันอย่างไร?
1. ทันตแพทย์รักษารากฟันจำเป็นต้องมีการศึกษาต่อเฉพาะทางขั้นสูง
หลังจากจบการศึกษาทันตแพทย์ศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัย ทันตแพทย์รักษารากฟันจำเป็นจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี ในการศึกษาเพิ่มเติมในหลักสูตรเฉพาะทางขั้นสูงเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษารากฟัน ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาเฉพาะทางทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติสำหรับขั้นตอนและวิธีการรักษารากฟัน โดยจะศึกษาเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคของเนื้อฟัน การรักษาคลองรากฟัน และเทคนิคการผ่าตัด
สำหรับขั้นตอนการรักษารากฟัน เพื่อเอาเนื้อเยื่อที่อักเสบหรือเกิดการติดเชื้อ ออกจากด้านในของฟันและปิดทับด้วยวัสดุอุดฟัน ทันตแพทย์รักษารากฟันจะต้องมีการฝึกอบรมพิเศษในการดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้
ทั้งนี้ในการฝึกอบรมของทันตแพทย์รักษารากฟันจะประกอบด้วย การเรียนรู้กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา และพยาธิวิทยาของฟัน ดำเนินการวินิจฉัยอย่างละเอียดและกำหนดแผนการรักษาที่ดีที่สุด รักษาโรคทางทันตกรรมต่างๆ รวมทั้งฟันผุ โรคเหงือก การติดเชื้อที่รากฟันและปริทันต์อักเสบปลาย และให้การดูแลผู้ป่วยอย่างครอบคลุม
2. ทันตแพทย์รักษารากฟันจะมีทักษะและความชำนาญเฉพาะทาง
ทันตแพทย์รักษารากฟันจะเน้นเฉพาะการรักษาเนื้อฟันเพื่อจำกัดการรักษาเฉพาะการรักษารากฟัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะมีการฝึกอบรมให้ได้มีการรักษารากฟันที่ค่อนข้างเยอะมากกว่า เมื่อเทียบกับทันตแพทย์ทั่วไป ซึ่งทำให้ทันตแพทย์รักษารากฟัน จะมีความชำนาญเป็นพิเศษในการตรวจและวินิจฉัยถึงสาเหตุของอาการปวดในช่องปากและใบหน้า ซึ่งปกติแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หากไม่มีประสบการณ์ในการักษาที่มากเพียงพอ โดยทันตแพทย์รักษารากฟัน มักจะเชี่ยวชาญในการรักษารากฟันที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียจากฟันผุ นอกจากนี้อาจทำการผ่าตัดรากฟันและกระดูกที่รองรับฟันร่วมด้วย
3. ทันตแพทย์รักษารากฟัน คือ ผู้เชี่ยวชาญการจัดการความเจ็บปวด
การรักษารากฟันเพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน เป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญที่สำคัญของ ทันตแพทย์รักษารากฟันที่มีประสบการณ์เพียงพอในการรักษาอาการปวดฟัน สามารถช่วยกำจัด หรือ ลดความเจ็บปวดลงได้ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่ง ที่ทำให้จำเป็นต้องรักษารากฟัน คือ เมื่อมีฟันที่ผุเป็นโพรงลึก ภาวะนี้ทำให้ เส้นประสาทของฟันเกิดการอักเสบได้
ทันตแพทย์รักษารากฟันจะใช้เทคนิคพิเศษ เพื่อทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายในระหว่างการรักษา โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญบริหารและสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาในทางด้านการอักเสบของรากฟัน เพื่อที่จะรักษาผู้ป่วยได้อย่างสบาย ให้ได้รับการบรรเทาจากอาการปวดฟันหลังจากทำการรักษารากฟันที่มีการติดเชื้อ หรือการอักเสบของเส้นประสาทภายในโพรงประสาทฟัน
4. ทันตแพทย์รักษารากฟันจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทันตแพทย์รักษารากฟันจะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ที่ใช้เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากการรักษา เช่น การถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์แบบดิจิทัล ซึ่งช่วยให้ทันตแพทย์รักษารากฟัน สามารถถ่ายภาพกายวิภาคของฟันขนาดเล็กที่มีรายละเอียด เพื่อดูคลองรากฟันและการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องได้ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะภายในโพรงประสาทฟันจะมีพื้นที่ขนาดเล็กมาก ทันตแพทย์รักษารากฟันจำเป็นต้องใช้กล้อง Microscope ปฏิบัติการทางทันตกรรมเพื่อตรวจสอบภายในคลองรากฟันเพื่อทำความสะอาดและรักษรากฟันอย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งเครื่องมือนี้ใช้โดยทันตแพทย์รักษารากฟัน ในระหว่างการรักษาคลองรากฟัน
บทสรุป – ทันตแพทย์รักษารากฟัน แตกต่างอย่างไร?
หากคุณมีฟันผุ ที่มีการติดเชื้อในโพรงประสาทรากฟัน และ ได้รับการตรวจโดยทันตแพทย์รักษารากฟันเฉพาะทางแล้วว่า มีความจำเป็นต้องทำ การรักษารากฟัน คุณควรไปพบ ทันตแพทย์เฉพาะทางรักษาฟันโดยเร็ว เพื่อดูแลปัญหาดังกล่าว
ทันตแพทย์รักษารากฟันจะมีความแตกต่างจากทันตแพทย์ทั่วไปตรงที่ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และมีประสบการณ์ในการรักษา ที่มุ่งเน้นเฉพาะทางสำหรับการรักษารากฟัน มีการใช้เทคนิคพิเศษ เพื่อทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายในระหว่างการรักษา สุดท้าย ทันตแพทย์รักษรากฟันจะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อช่วยให้ได้รับผลลัพธ์การรักษารรากฟันที่ดีที่สุด และช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จที่ดียิ่งขึ้น
การรักษารากฟันถึงแม้จะเป็นวิธีการที่ยุ่งยากและซับซ้อน แต่ก็มีข้อดีที่ทำให้สามารถเก็บรักษาฟันเอาไว้ในช่องปากได้ การรักษาจะได้ผลสำเร็จดีที่สุด หากเจ้าของฟันให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในขั้นตอนการรักษา มาตามเวลาที่นัดหมายจนเสร็จสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ วิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาฟันเอาไว้ในช่องปาก คือ การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างดี แปรงฟันบ่อยๆอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง รวมถึงมาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
สอบถามและนัดหมาย- ทันตแพทยรักษารากฟัน
บทความที่เกี่ยวข้อง ทันตแพทย์รักษารากฟัน
ฟันผุที่ไม่ได้รักษา…อาจส่งผลต่อหัวใจและสุขภาพ
รู้ทันสัญญาณเตือน สาเหตุ วิธีรักษา และแนวทางการป้องกันฟันล้ม
“ฟันล้ม” เป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เคยจัดฟันแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ จนทำให้ฟั…