อาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน เป็นอย่างไร?
อาหารที่ดีต่อสุขภาพฟันของลูกเป็นสิ่งสำคัญ!! ในฐานะพ่อแม่เราทุกคนต้องการให้ลูกๆ มีรอยยิ้มที่มีสุขภาพดีและมีความสุข แต่รู้หรือไม่ว่าโภชนาการของอาหารที่ดี มีบทบาทสําคัญในการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพฟันที่แข็งแรงและสุขภาพช่องปากที่ดีด้วยเช่นกัน!!
ในบทความนี้เราจะมาคุยกันถึง ข้อแนะนําสําหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า เด็กๆกําลังรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้พวกเค้ามีสุขภาพฟันและเหงือกที่แข็งแรง รวมถึงความเชื่อมโยงประโยชน์ของอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟันของลูกกันนะคะ มาติดตามไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
เคล็ดลับเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟันของลูกน้อย
เราจะทําอย่างไรเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เด็กๆกําลังรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและมีสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณที่สมดุลซึ่งจะช่วยให้มีสุขภาพฟันและช่องปากที่ดี? มาพบกับเคล็ดลับสำคัญเหล่านี้ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ:
1. ส่งเสริมให้เด็กๆทานผักและผลไม้หลากหลายชนิด
เนื่องผักผลไม้ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ฟันและเหงือกแข็งแรง ตัวอย่างเช่น แครอทเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเอซึ่งช่วยเสริมสร้างเคลือบฟัน ในขณะที่ผักใบเขียว เช่น ผักโขมจะอุดมไปด้วยแคลเซียมและกรดโฟลิกซึ่งส่งเสริมสุขภาพเหงือกที่ดี
2. รวมโปรตีนไม่ติดมันเข้าไปในมื้ออาหาร
โปรตีนชั้นดีไม่ติดมัน เช่น ไก่ ปลา และถั่ว เป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน เพื่อช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในช่องปาก ทั้งนี้เนื่องจากโปรตีนมีความสําคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย รวมถึงเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆในปากได้นั่นเอง
3. เลือกธัญพืชเต็มเมล็ดแทนธัญพืชแปรรูป
เนื่องจากมีสารอาหารหลากหลายชนิดที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีมากขึ้น ธัญพืชเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบีซึ่งมีความสําคัญต่อการรักษาสุขภาพเหงือกและฟัน ตัวอย่างของธัญพืชเต็มเมล็ด ได้แก่ ข้าวกล้อง ควินัว และขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเด็กๆได้รับแคลเซียมและวิตามินดีเพียงพอ
โดยการรวมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม ผักใบเขียวและอาหารเสริมไว้ในมื้ออาหารของพวกเค้า ผลิตภัณฑ์นม เช่น นม ชีส และโยเกิร์ตจะอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งจําเป็นสําหรับฟันและกระดูกที่แข็งแรง วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องแน่ใจว่าเด็กๆ ได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างเพียงพอ ตัวอย่างของอาหารเสริมที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง ได้แก่ ปลาตัวเล็กๆที่สามารถทานได้ทั้งตัว และเต้าหู้
5. จํากัดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงและมีความเป็นกรด
เนื่องจากอาหารที่มีน้ำตาลสูงและมีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำอัดลม สามารถกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันและนําไปสู่ปัญหาฟันผุได้ และในกรณีที่เกิดฟันน้ำนมผุแล้ว ก็จำเป็นจะต้องไปพบกับหมอฟันเด็กเพื่อทำการรักษาค่ะ
สำหรับวิธีการหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ที่มีน้ำตาลและมีความเป็นกรดสูงง่ายๆ สามารถทำได้โดยการแทนที่อาหารหรือเครื่องดื่มเหล่านี้ โดยให้ลูกดื่มน้ำและนมซึ่งดีต่อสุขภาพช่องปากแทน เนื่องจากน้ำช่วยล้างเศษอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก ในขณะที่นมเป็นแหล่งแคลเซียมและวิตามินดีที่ดี
อาหารเสริมจำเป็นมั๊ย?!
สำหรับในบางกรณี อาหารเสริมสามารถช่วยสนับสนุนสุขภาพช่องปากได้ โดยการให้สารอาหารเพิ่มเติมที่อาจขาดไปในมื้ออาหารปกติ เช่น อาหารเสริมแคลเซียมและวิตามินดีอาจได้รับคำแนะนำจากคุณหมอสําหรับเด็กที่ไม่ได้รับสารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอผ่านมื้ออาหารปกติเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็คำแนะนำทั่วไปคือ ควรปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเด็กเพื่อดูความจำก่อนต้องทางอาหรเสริมก่อนตัดสินใจเริ่มให้เด็กๆเริ่มทานค่ะ
ผลกระทบของอาหารต่อสุขภาพฟัน
ฟันและเหงือกของเราต้องการสารอาหารที่จําเป็นหลากหลายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี รวมถึงแคลเซียม วิตามินดี ฟอสฟอรัส และฟลูออไรด์ แคลเซียมมีความสําคัญต่อการสร้างฟันและกระดูกที่แข็งแรงในขณะที่วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม นอกจากนี้ฟอสฟอรัสยังจําเป็นสําหรับฟันและกระดูกที่แข็งแรง รวมถึงฟลูออไรด์ที่ช่วยปกป้องฟันจากฟันผุโดยการเสริมสร้างเคลือบฟัน
อาหารที่ไม่ดีมีน้ำตาลสูงและอาหารแปรรูปส่วนใหญ่ สามารถนําไปสู่ปัญหาฟันผุ โรคเหงือกและปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ในความเป็นจริงพบว่ามีเด็กเล็กๆจำนวนมากที่ชอบทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงและมีปัญหาฟันผุโดยมักเริ่มจากจุดเล็กๆ เมื่อปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุดฟันน้ำนม ก็จะลุกลามเป็นรอยผุใหญ่ที่ผุลึกลงไปและถ้าทะลุถึงโพรงประสาทฟันก็จะทำให้เกิดอาการปวดฟัน ซึ่งเด็กๆจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาด้วยการรักษารากฟันน้ำนมร่วมกับการครอบฟันน้ำนมต่อไปค่ะ
มีผลการวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า อาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นสาเหตุสําคัญของฟันผุในเด็ก อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและมีความเป็นกรดสามารถกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันและนําไปสู่ฟันผุ ในขณะที่อาหารแปรรูปมักขาดสารอาหารที่จําเป็นต่อสุขภาพช่องปากที่ดี ดังนั้นจึงจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแน่ใจว่าบุตรหลานของคุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีความสมดุลในแง่ปริมาณที่ได้รับ
บทสรุป
โภชนาการที่ดีเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีรวมถึงสุขภาพช่องปาก โดยทําตามเคล็ดลับเหล่านี้และส่งเสริมให้เด็กๆได้ทานอาหารที่สมดุล เราสามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าเด็กจะมีรอยยิ้มที่สดใน มีสุขภาพฟันและช่องปากที่ดี และมีความสุข
แม้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพจะมีความสำคัญต่อสุขอนามัยในช่องปากที่ดี การดูแลทำความสะอาดฟันและช่องปากก็ยังมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ควรให้เด็กๆหรือช่วยให้เค้าแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทุกวันและไปพบกับหมอฟันเด็กเป็นประจําเพื่อตรวจสุขภาพฟัน ขูดหินปูนและเคลือบฟลูออไรด์ ในทุกๆ 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการเกิดฟันผุในช่องปาก ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้) เพื่อให้พวกเค้าได้มีรอยยิ้มที่สดใสตลอดไปค่ะ
“ให้อาหารที่ดีช่วยเสริมรอยยิ้มที่สดใสของเด็กๆกันเถอะ!!”
คลินิกทันตกรรม SmileDC
แชร์บทความนี้
เพราะการแบ่งปันคือความห่วงใยที่เรามีให้กัน…(เลือกแชร์บทความให้เพื่อนได้โดยกดปุ่มด้านล่างนี้เลยค่ะ)