จัดฟันน้ำนม คืออะไร?
จัดฟันน้ำนม คือการจัดฟันเด็กที่มีฟันน้ำนมหรือฟันผสม เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของขากรรไกรให้สมดุล รักษาพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมถึงการแก้ไขปัญหาการสบฟันตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น ฟันซ้อน ฟันยื่น หรือฟันสบผิดรูป และช่วยปรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลเสียต่อฟัน เช่น ชอบใช้ลิ้นดันฟัน ดูดนิ้ว หรือกัดฟันขณะหลับโดยไม่ตั้งใจ โดยทั่วไปจะเริ่มช่วงอายุ 4-5 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่กระดูกขากรรไกรยังปรับตัวง่าย โดยทันตแพทย์แนะนำให้ประเมินฟันเบื้องต้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 7 ปี เพื่อวางแผนจัดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
จัดฟันน้ำนม เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
การจัดฟันน้ำนม สามารถจะเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุประมาณ 4-5 ขวบ เพื่อแก้ปัญหารูปฟันที่ผิดปกติในเด็กเล็กที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่จำเป็นต้องพิจารณาในการเลือกรักษาด้วยการจัดฟันเด็ก ดังต่อไปนี้ค่ะ
- การวินิจฉัยโดยคุณหมอฟันเฉพาะทาง: การตรวจรักษาโดยคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางเป็นขั้นแรกที่สำคัญ โดยคุณหมอจะทำการประเมินสภาพช่องปากของเด็กๆ และตรวจดูว่ามีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการสบฟัน รวมถึงรูปร่างของฟันที่ซ้อนเก หรือล้มเข้ามามากจนกระทบถึงการดำเนินชีวิตปกติ เช่น ทานอาหาร หรือพัฒนาการด้านการพูดออกเสียง กรณีเหล่านี้อาจต้องทำการการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก
- การจัดฟันน้ำนมเพื่อป้องกัน: หากมีปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยด่วน เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันเบียดติดกันมากเกินไป และปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบนทำให้รูปหน้าผิดปกติหรือทำให้คางยื่นมาก คุณหมออาจแนะนำให้จัดฟันเด็กในช่วง ตั้งแต่อายุ 4-5 ขวบ (ชุดฟันน้ำนม) หรือเมื่อตอนอายุ 7-10 ขวบ (ชุดฟันผสม) ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการรักษา เนื่องจากขากรรไกรยังมีโอกาสเติบโตและขยายออกเพื่อให้รูปฟันกลับมาเป็นปกติได้เพื่อป้องกันปัญหาช่องปากในอนาคต
- การจัดฟันในวัยที่เหมาะสม: ส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำการจัดฟันในช่วยวัยรุ่น อายุ 12-15 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ฟันน้ำนมหลุดและฟันแท้กำลังขึ้นมา การจัดฟันในช่วงนี้จะเหมาะมากเพื่อช่วยปรับปรุงการเรียงตัวของฟันให้สวยงาม และป้องกันปัญหาทางช่องปาก เช่น ฟันเบียดซ้อนทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงและทำให้เกิดฟันผุได้ในอนาคต
การจัดฟันน้ำนมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสุขภาพช่องปากของเด็ก และควรปรึกษาขอคำแนะนำจากคุณหมอฟันเด็กหรือหมอจัดฟันเฉพาะทาง ซึ่งถ้ามีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการจัดฟันน้ำนมในเด็ก โดยปกติแล้วหลังการตรวจวินิจฉัยนี้ คุณหมอจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันน้ำนมในเด็ก รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับจัดฟันเด็กให้คุณพ่อคุณแม่ทราบค่ะ
ทำไมต้อง “จัดฟันน้ำนม”?!
การจัดฟันน้ำนมหรือการจัดฟันเด็กเป็นขั้นตอนสำคัญในการช่วยรักษาความผิดปกติของฟัน ไม่เพียงแต่เรื่องของความสวยงามของการเรียงตัวของฟันให้มีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม แต่ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพฟันและช่องปากโดยรวมของเด็กๆอีกด้วยค่ะ
การจัดฟันน้ำนมหรือการจัดฟันเด็กช่วยแก้ไขปัญหาฟันและสุขภาพช่องปากโดยรวมได้ดังต่อไปนี้:
1. การจัดฟันน้ำนมช่วยแก้ปัญหาช่องปาก:
การจัดฟันน้ำนมช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อนฟันเก ฟันเบียดติดกันมากเกินไป หรือกระดูกขากรรไกรผิดปกติ ที่ส่งผลให้การสบฟันผิดปกติและทำความสะอาดช่องปากลำบากขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตของเด็กและป้องกันปัญหาในอนาคต
2. การจัดฟันเด็กสำหรับเตรียมความพร้อมของฟันแท้:
สำหรับเด็กที่ฟันน้ำนมหลุดหรือฟันน้ำนมถูกถอนไปก่อนกำหนด เช่น เด็กโตเร็วหรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ฟันหลุดหรือต้องถอน การจัดฟันในเด็กจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันปัญหาฟันรอบข้างและป้องกันไม่ให้ฟันแท้ซ้อนเก
3. การป้องกันพฤติกรรมเสี่ยง:
หากเด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อปัญหาฟัน เช่น การดูดนิ้ว การนอนกัดฟัน การทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งมากเกินไป หรือขาดการดูแลช่องปาก การจัดฟันน้ำนมอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาฟันในอนาคตได้
การจัดฟันน้ำนมในเด็กไม่เพียงแต่เป็นเรื่องความสวยงามแต่ยังเป็นเรื่องสุขภาพที่สำคัญ เพื่อให้เด็กมีฟันแข็งแรงและป้องกันปัญหาทางช่องปากในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องมือสำหรับจัดฟันเด็ก มีกี่แบบ?
เครื่องมือสำหรับจัดฟันน้ำนมหรือชุดฟันผสม (ฟันน้ำนม+ฟันแท้) เป็นอุปกรณ์สำคัญในการแก้ไขปัญหาฟันไม่สวยงามและช่วยแก้ไขปัญหาช่องปากในเด็กตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งหลักๆจะมีอยู่ 2 แบบ มาทำความรู้จักกับเครื่องมือนี้และทำความเข้าใจความแตกต่างในการใช้งานของแต่ละแบบกันค่ะ
1. เครื่องมือจัดฟันเด็กแบบยึดติดแน่น
เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการจัดฟันน้ำนมที่มีการคาดหวังว่าผู้รับการรักษาจะใส่ตลอดเวลา สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของฟันได้อย่างแม่นยำ ปกติจะติดอยู่ในปากผู้รับการรักษาตลอดระยะเวลาที่จัดฟัน ช่วยให้ผลลัพธ์มักเป็นไปตามที่วางแผนไว้ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เน้นความรวดเร็วและความถูกต้องในการจัดฟัน มีอยู่ 2 แบบ ได้แก่
1.1 เครื่องมือจัดฟันเด็กแบบโลหะ
เครื่องมือจัดฟันเด็กแบบโลหะนี้ บางครั้งเรียกว่าการจัดฟันแบบเหล็ก จะใช้ยางจัดฟันรัดลวดกับตัวแบร็กเก็ตเพื่อเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง แต่ต้องใส่ใจในการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นพิเศษ เพราะการดูแลความสะอาดอาจยากกว่าการจัดฟันรูปแบบอื่นๆเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบนี้ก็ยังมีข้อดีคือ ผู้จัดฟันสามารถเลือกสียางจัดฟันได้ตามความชอบส่วนตัวหรือแฟชั่นตามเทศกาล เช่น สีเขียว/แดง/ขาว กับเทศกาลคริสต์มาส โดยใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2-3 ปี งบประมาณอยู่ที่ประมาณ 40,500 บาท สามารถแบ่งชำระได้เดือนละ 1,500 บาท
1.2 เครื่องมือจัดฟันเด็กแบบดามอน (Damon)
จะเป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือติดแน่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยางรัดเหมือนแบบโลหะทั่วไป เพราะตัวแบร็กเก็ตจะมีประตูล็อกลวดในตัว สามารถเปิด-ปิดได้ ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงลดแรงกดบนฟัน ทำให้รู้สึกสบาย ไม่เจ็บหรือระคายเคืองเท่าแบบใช้ยางรัด ใช้ระยะเวลาจัดฟันเร็วกว่าแบบโลหะประมาณ 1-3 ปี มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 90,000 บาท
2. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้
เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและดูแลรักษา ผู้รับการรักษาสามารถถอดออกได้เองขณะรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดฟัน ทำให้ไม่มีข้อจำกัดในการเลือกอาหาร และดูแลช่องปากง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การจัดฟันด้วยเครื่องมือประเภทนี้อาจใช้เวลานานกว่าแบบติดแน่น และต้องระมัดระวังในการถอดหรือใส่ เพื่อป้องกันเครื่องมือชำรุดหรือใส่ผิดตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทฺธิภาพในการจัดฟันได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 บาท
3. เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign
เครื่องมือจัดฟันแบบใส จะผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงที่มีผิวสัมผัสเรียบและโปร่งใส ถูกออกแบบอย่างเฉพาะเจาะจงให้เหมาะกับรูปฟันของแต่ละบุคคลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3 มิติ ทำให้สวมใส่สบายและแทบมองไม่เห็น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันแบบไม่ให้สังเกตเห็นชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฟันซ้อนจำนวนมาก หรือไม่สะดวกเดินทางมาพบทันตแพทย์บ่อยๆ อีกทั้งยังสามารถถอดออกเพื่อแปรงฟันหรือรับประทานอาหารได้ง่าย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันผุและปัญหาเหงือกได้ดี ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องชุดเครื่องมือใหม่ตามแผนทุก 2 สัปดาห์ ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความยาก-ง่ายของแต่ละเคส ซึ่งอาจใช้เวลาสั้นๆเพียง 3 เดือน หรือยาวนานถึง 1-4 ปี โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 70,000-200,000 บาท
การเลือกใช้เครื่องมือสำหรับจัดฟันน้ำนมควรพิจารณาถึงความสะดวก งบประมาณและความเหมาะสมสำหรับผู้รับการรักษา โดยคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางสามารถช่วยแนะนำแบบที่เหมาะกับการรักษาและความจำเป็นสำหรับเคสของเด็กแต่ละคนซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปค่ะ
การจัดฟันเด็กใช้ระยะเวลานานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการจัดฟันเด็กจะอยู่ในช่วงระหว่าง 12-24 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาในการจัดฟันน้ำนมในเด็กนั้น จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาทางทันตกรรมที่เด็กๆแต่ละคนเจอพบ ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาฟันที่ยื่นออกมาหรือมีช่องว่าง ปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบน หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียงฟันและการปรับรูปร่างของฟันน้ำนม
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ทราบระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละคน คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษากับทันตแพทย์เด็กหรือทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจัดฟันเฉพาะทาง ซึ่งคุณหมอจะทำการตรวจประเมินเบื้องต้นและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันที่เหมาะกับเด็กๆแต่ละคนได้ค่ะ
ในระหว่างระยะเวลาการจัดฟันนี้ เด็กจะต้องไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆเดือน เพื่อติดตามความก้าวหน้าและปรับปรุงแผนการรักษาตามความจำเป็น การดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กในระยะเวลานี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อพัฒนาการของฟันและพัฒนาการกระดูกขากรรไกรของเด็กๆในอนาคต ดังนั้นการทำความเข้าใจและทำความรู้จักกับขั้นตอนของการจัดฟันเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูแลรักษาความสะอาดของฟันและช่องปากของน้องๆเพื่อช่วยป้องกันปัญหาฟันผุในช่วงเวลานี้ด้วยค่ะ
จัดฟันเด็กราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันน้ำนมหรือจัดฟันเด็กที่มีชุดฟันผสมนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาฟันและประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในการรักษา โดยการจัดฟันเด็กที่คลินิกทันตกรรม SmileDC มีราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท
คลินิกทันตกรรม SmileDC ให้บริการการจัดฟันเด็ก โดยคุณหมอจัดฟันเฉพาะทาง ใจดี มือเบาและมีประสบการณ์สูงในการช่วยรักษาและแก้ไขปัญหาฟันของเด็กๆที่มีความผิดปกติต่างๆในทุกรูปแบบ และสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพฟันในระหว่างการจัดฟัน การประเมินค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กๆได้กลับไปมีมีความมั่นใจในรอยยิ้มที่สดใส และมีสุขภาพฟันที่ดีค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันน้ำนม
เด็กอาจรู้สึกตึงหรือไม่สบายตัวในช่วงแรก แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน
ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือเหนียว และดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี
ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส หากฟันแท้ขึ้นครบและมีปัญหาอื่น อาจต้องจัดเพิ่มเติม (Phase-2)
อย่างไรก็ดี การเลือกจัดฟันเด็กควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและปรึกษากับทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเป็นสำคัญ เพื่อให้น้องๆได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อแก้ไขปัญหาฟันที่แตกต่างกันในเด็กแต่ละคนอย่างเหมาะสมต่อไปค่ะ
และทั้งหมดนี้ คือข้อมูลเกี่ยวกับการจัดฟันน้ำนม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดฟันนมน้ำนมในเด็กให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้นะคะ หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามเข้ามาได้ผ่านทาง Facebook แชท, Line Official Account หรือทางโทรศัพท์ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ ทางคลินิกทันตกรรม SmileDC ยินดีช่วยตอบคำถามคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองค่ะ
แชร์บทความนี้
เพราะการแบ่งปันคือความห่วงใยที่เรามีให้กัน…(เลือกแชร์บทความให้เพื่อนได้โดยกดปุ่มด้านล่างนี้เลยค่ะ)